หลังจากเรียนจบป.ตรีผมก็มาทำงานกับที่บ้านทันที เลยไม่ได้มีประสบการณ์ลาออกจาบริษัทมาก่อนมีแค่แจ้งที่บ้านว่าจะไปต่อโทแล้วไม่ทำกงสีที่บ้านต่อแล้วซึ่งคงไม่เหมือนกับการลาออกจริงๆ พอจบโทก็ทำงานกับบริษัทเดียวมาตลอด5ปีเลยพึ่งมีประสบการณ์ลาออกครั้งแรกเลยอยากจะบันทึกไว้ซักหน่อย สิ่งที่ได้เรียนรู้ตลอดช่วง5ปีคือบริษัทไม่เคยแคร์เรานะครับ ถ้าเราไม่อยู่เขาหาคนแทนได้ตลอดเวลาและไม่ใช่หน้าที่ของพนักงานที่ต้องมาห่วงเรื่องพวกนี้เลย ดังนั้นหากทำงานแล้วมันทำให้สุขภาพร่างกายและจิตใจแย่ลงสิ่งที่ควรคิดคือถ้ายังทำงานที่นี่จะแก้ปัญหานี้ได้มั้ยถ้าไม่ได้ก็ต้องคิดแผนถอยล่ะ พอผมตัดสินใจว่าไม่ไหวแล้วทั้งในแง่ของสภาพร่างกายและจิตใจสิ่งที่ทำคือบอกหัวหน้างานว่าขอลาออก หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องของการเตรียมแผนการTransitionงานให้กับคนที่จะมาแทนและเรื่องงานเอกสารต่างๆเช่นการโอนเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพซึ่งต้องตรวจสอบเงื่อนไขดีๆว่าเขาจะให้เงินสมทบเราเท่าไหร่ตามระยะเวลาที่ทำงาน ทีนี้ก็เขาสู่ขั้นตอนสุดท้ายคือการเตรียมResumeและยื่นใบสมัครกับที่ใหม่ ของผมโชคดีหน่อยที่มีอีกบริษัทเสนองานเข้ามาพอดีเลยมีเวลาพัก1เดือนซึ่งผมจะใช้ในการพักและปรับสภาพร่างกาย(ลดน้ำหนัก 555)ให้พร้อมก่อนไปทำงานที่ใหม่ต่อไป ซึ่งจะเป็นการเดินหน้าไปสู่สิ่งใหม่ๆที่ไม่เคยเจอแต่ก็นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นต่อการพัฒนาตัวเองครับ :>
Read moreก่อนจะเริ่มเขียนBlog Fukuokaผมมีประสบการณ์มาแชร์ให้หลายๆท่านฟังครับ เนื่องจากก่อนบินผมพึ่งกลับมาจากอเมริกาได้ไม่นานอาการJet Lagก็ยังมีอยู่ แถมผมดันลืมปรับเวลาในมือถือจนทำให้จำวันผิดไป1วันเต็มๆ คืนก่อนวันที่ต้องบินไปฟุกุโอกะผมก็หลับไปตั้งแต่4ทุ่มเพราะคิดว่าบินวันพรุ่งนี้ แต่ไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไรผมตื่นขึ้นมาตอนตีสองพร้อมกับนึกขึ้นได้ว่าผมต้องบินคืนนี้และFlightผมนั้นบินออกไปแล้ว…. ในจังหวะนั้นผมPanicมากแบบทำยังไงดี หรือจะยกเลิกแผนเที่ยวไปเลยแล้วCancelโรงแรมทิ้งทั้งหมด หรือต้องหาFlightขาไปใหม่? แต่พอตั้งสติได้เลยรู้ว่าสิ่งที่ต้องทำจริงๆได้แก่ 1.หาเอกสารE-Ticket 2.โทรหาสายการบิน รอบนี้ผมบินการบินไทยก็โทรเข้าCall Centerกดเข้าแผนกซื้อตั๋วเลย ตอนตี2ก็มีคนรับ 3.แจ้งทางCall Centerไปว่าเราตกเครื่อง ต้องการเปลี่ยนเวลาเดินทางใหม่ ซึ่งถ้ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มก็ต้องให้เลขบัตรเครดิตไปและต้องเอาบัตรไปยื่นตอนเช็คอินด้วย …
Read moreBlogนี้ผมทำขึ้นมาเพราะอยากใช้มันเป็นเหมือนสมุดจดส่วนตัวสำหรับบันทึกสิ่งที่ได้เห็นและเรียนรู้จากการได้ไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา(2014)ผมมีโอกาสได้มาทำงานต่างประเทศเป็นครั้งแรกเลยอยากจะบันทึกสิ่งที่ตัวเองไปเจอมาในสมุดที่จะไม่หายไปไหนและกลับมาย้อนอ่าน+ส่งต่อให้คนอื่นได้ อีกเรื่องที่อยากบอกกล่าวกันล่วงหน้าคือแม้จะเรียกตัวเองว่าBlogแต่ผมคงไม่อธิบายวิธีการไปสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่หรือลงรายละเอียดมากมายนักโดยจะเน้นไปที่รูปซะมากกว่านะครับ แต่ถ้าใครอยากรู้เรื่องไหนเพิ่มเติมก็Commentทิ้งไว้ได้ครับ ขอบคุณมากที่เข้ามาเยี่ยมเยียนสมุดบันทึกเล่มนี้ :>
Read more